มาตราเสียงของดนตรีไทย
มาตราเสียงของดนตรีไทย
ระดับเสียงหลักของดนตรีไทยมีทั้งหมด 7 เสียง คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที เช่นเดียวกับดนตรีสากล ทุกระดับเสียงมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็มเท่าๆกันทุกเสียงต่างจากดนตรีสากลคือ ไม่มีระยะครึ่งเสียง ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบดังต่อไปนี้
ระดับเสียงดนตรีสากล
# # # # #
ด ด ร ร ม ฟ ฟ ซ ซ ล ล ท ด
ระดับเสียงดนตรีไทย
ด ร ม ฟ ซ ล ท ด
ทำนองเพลงของดนตรีไทย
ทำนอง หมายถึง เสียงระดับต่างๆ มีทั้งสูง ต่ำ สั้น ยาว ที่ผู้ประพันธ์ได้นำมาเรียบเรียงให้สอดประสานกันอย่างกลมกลืน ไพเราะ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ทำนองบรรเลง และ ทำนองร้อง
1. ทำนองบรรเลง (ทางเครื่อง) หมายถึง ทำนองที่ผู้ประพันธ์ ประพันธ์ขึ้นสำหรับให้เครื่องดนตรีต่างๆบรรเลง โดยผู้ประพันธ์จะประพันธ์ทำนองหลัก (ทางฆ้อง) ขึ้นก่อน จากนั้น ผู้บรรเลงเครื่องดนตรีอื่นๆ จะพลิกแพลงหรือแปรทำนองให้เหมาะสมกับเครื่องดนตรีแต่ละชนิด
WINKWHITE
ระดับเสียงหลักของดนตรีไทยมีทั้งหมด 7 เสียง คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที เช่นเดียวกับดนตรีสากล ทุกระดับเสียงมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็มเท่าๆกันทุกเสียงต่างจากดนตรีสากลคือ ไม่มีระยะครึ่งเสียง ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบดังต่อไปนี้
ระดับเสียงดนตรีสากล
# # # # #
ด ด ร ร ม ฟ ฟ ซ ซ ล ล ท ด
ระดับเสียงดนตรีไทย
ด ร ม ฟ ซ ล ท ด
ทำนองเพลงของดนตรีไทย
ทำนอง หมายถึง เสียงระดับต่างๆ มีทั้งสูง ต่ำ สั้น ยาว ที่ผู้ประพันธ์ได้นำมาเรียบเรียงให้สอดประสานกันอย่างกลมกลืน ไพเราะ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ทำนองบรรเลง และ ทำนองร้อง
1. ทำนองบรรเลง (ทางเครื่อง) หมายถึง ทำนองที่ผู้ประพันธ์ ประพันธ์ขึ้นสำหรับให้เครื่องดนตรีต่างๆบรรเลง โดยผู้ประพันธ์จะประพันธ์ทำนองหลัก (ทางฆ้อง) ขึ้นก่อน จากนั้น ผู้บรรเลงเครื่องดนตรีอื่นๆ จะพลิกแพลงหรือแปรทำนองให้เหมาะสมกับเครื่องดนตรีแต่ละชนิด
2. ทำนองร้อง (ทางร้อง) หมายถึง ทำนองที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับให้ผู้ขับร้อง ร้องให้กับดนตรีรับ ประกอบด้วยทำนองที่ผู้ประพันธ์ ประพันธ์ขึ้น โดยปกติทำนองร้องและทำนองบรรเลงจะมีความยาวเท่ากัน ยกเว้นเพลงทยอยหรือเพลงที่มีลูกโยนทำนองร้องจะสั้นกว่าทำนองรับ
เนื่องด้วยคำในภาษาไทยมีการใช้เสียงวรรณยุกต์ ทำให้ความหมายของคำแตกต่างกันออกไป เช่น คำว่า ม้า ถ้าร้องโดยคำนึงว่าให้ตรงเสียงหลักของเพลง อาจจะออกมาเป็น มา หรือ หมา ได้ ทำให้ความหมายเปลี่ยนไป ดังนั้นทำนองร้องจึงจำเป็นต้องคำนึงเสียงหลักและความหมายไปพร้อมๆกัน
จังหวะของดนตรีไทย
จังหวะ หมายถึง การแบ่งช่วงระยะความสั้น ยาวของทำนองเพลงให้มีสัดส่วนเท่าๆกัน โดยใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องกำกับจังหวะ ได้แก่ ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง และกลองต่างๆเป็นเครื่องวัด แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 3 ประเภท คือ
1. จังหวะสามัญ หมายถึง จังหวะที่ใช้ยึดเป็นหลักในการขับร้องหรือบรรเลงซึ่งกำหนดเป็นช้าหรือ เร็ว ของจังหวะ
2. จังหวะฉิ่ง หมายถึง จังหวะความสั้น ยาว เร็ว ช้า ที่กำหนดโดยฉิ่ง จังหวะฉิ่ง ที่ใช้ในการบรรเลงแบ่งเป็น 3 อัตราจังหวะ ได้แก่ สามชั้น (ช้า) สองชั้น (ปานกลาง) และชั้นเดียว (เร็ว)
3. จังหวะหน้าทับ หมายถึง จังหวะความสั้น ยาว เร็ว หรือช้า ที่กำหนดโดยเครื่องดนตรีที่ขึงด้วยหนัง เช่น โทน รำมะนา กลองแขก ตะโพน กลองทัด เป็นต้น จังหวะะหน้าทับสิ่งที่บ่งบอกความสั้น ยาว อารมณ์ และรูปแบบของเพลง จังหวะหน้าทับหลักที่นิยมใช้กับเพลงไทยมี 2 ประเภท คือ หน้าทับปรบไก่ และหน้าทับสองไม้
นอกจากนี้ยังมีหน้าทับพิเศษที่ใช้สำหรับประกอบเพลงที่มีลักษณะพิเศษซึ่งไม่สามารถใช้หน้าทับปรบไก่หรือ สองไม้ได้ เป็นเพลงที่มีจังหวะผสม เช่น เพลงชมตลาด เพลงฉิ่ง เพลงเชิด เพลงสำเนียงภาษาต่างๆ
WINKWHITE
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น