แบบฝึกที่ 1
ให้เป่าเสียง โด โดยขยับริมฝีปากให้ตรงกับลูกโหวดเสียงโด ใช้การนับในใจหรือเคาะปลายเท้าลง จังหวะที่ 4 อย่างเสม่ำเสมอ เป่าตามจังหวะซ้ำหลายๆรอบจนเข้าใจ ตามแบบฝึกต่อไปนี้ ฝึกเป่าในจังหวะที่ 1,2,3,4 เป่าครั้งละหนึ่งเสียง (1 ลมต่อ 1 เสียง)
แบบฝึกที่ 1.1
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 1,2,3,4 เป่าครั้งะหนึ่งเสียง (1 ลม ต่อ 1 เสียง)
แบบฝึกที่ 1.2
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 2 , 4 เป้นครั้งละ 1 เสียง (1 ลม ต่อ 1 เสียง)
แบบฝึกที่ 1.3
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 2 , 3, 4 เป่าครั้งละหนึ่งเสียง (1 ลม ต่อ 1 เสียง)
แบบฝึกที่ 1.4
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 2 , 4 และ 2 , 3, 4 เป่าครั้งละ 1 เสียง (1 ลม ต่อ 1 เสียง)
แบบฝึกที่ 1.5
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 4 และ 2 ,3 , 4 เป่าครั้งละหนึ่งเสียง ( 1 ลม ต่อ เสียง)
แบบฝึกที่ 1.6
ฝึกเป่าในจังหวะที่ 4 และ (1,2,4) (1,2,4) (1,2,4) เป่าครั้งละหนึ่งเสียง (1ลม ต่อ 1 เสียง)
ข้อควรจำ
ก่อนการฝึกตามแบบฝึกดังกล่าว ควรฝึกเป่าไล่เสียง ด้วยการใช้ข้อมือหมุนให้คล่องและให้เกิดความแม่นยำการเป่าให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ฝึกเป่าควบคุมเสียงให้ได้ตามต้องการ ดดยถ้าเป่าแล้วเสียงไม่ออกก็ปรับโหวดหาทิสทางลม และปรับองศาตำแหน่งที่จะทำให้เกิดเสียง ดดยเฉพาะปากต้องไม่เกร็งจนเกินไป ควรทำปากเหมือนกำลังผิวปากหรือให้คิดว่ากำลังเป่าปากขวด ดังนั้นรูปปากจะต้องเหลือรูนิดเดียว เพื่อที่จะเป่าลมเข้าไปในรูของลูกโหวดให้เกิดเสียง
การใช้เทคนิคการผ่อนลม , เป่าอ้อนเสียง เหมาะสำหรับต้องการให้โหวดมีเสียงที่ยาว ถ้าต้องการให้เสียงสั้นก็ให้เป่าตัดลม ส่วนการเป่าสะบัดเสียง สามารถนำมาผสมผสานให้เกิดอารมณ์มากขึ้นได้ การที่จะมีความแม่นยำในตำแหน่งเสียงโหวดได้ จะต้องใช้เวลาในการฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรใจร้อนคอยชำเลืองดูตัวโน้ตบนลูกโหวด เพราะทำให้เสียบุคลิก ขาดความมั่นใจ เมื่อมีความแม่นยำแล้วควรฝึกลมที่เป่าโดยให้สามารถเป่าลมละ 2 เสียง 3 เสียง 4 เสียง 5 เสียง 6 เสียง 7 เสียง เพ่ือให้ร่างกายเกิดความเคยชินในการใช้ลมซึ่งมีความจำเป้นมาก เพราะถ้าเป่าเป้นลายต้องใช้ลมมากเป็นเวลานานๆ จะทำให้บางคนหน้ามืดเป้นลม วิงเวียนศีรษะเพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน ดังนั้นผู้เป่าจะต้องฝึกใช้ลมที่ถูกหลัก ซึ่งลมที่มีคุณภาพควรใช้ลมจากท้องหรือกระบังลมที่เราหายใจเข้าไปจึงจะสามารถเป่าได้ไพเราะ
ที่มา : คู่มือศึกษาดนตรีพื้นบ้านอีสาน โรงเรียนพลาญชัยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ร้อยเอ็ด)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น