นาฏยศัพท์

         การศึกษาทางด้านนาฏศิลป์ไทยประเภทต่างๆนั้น ท่าทางที่ผู้แสดงงถ่ายทอดออกมาจะมีความหมายเฉพาะ เมื่อได้ศึกษาทำความเข้าใจ จะทำให้เข้าใจในเรื่องการแสดงมากยิ่งขึ้น  ซึ่งพื้นฐานในการฝึกหัดการแสดงนาฏศิลป์ คือ นาฏยศัพท์
           นาฏยศัพท์    หมายถึงศัพท์ที่ใช้เกี่ยวกับท่ารำ ทั้งลักษณะท่ารำที่ใช้ในการฝึกหัด เพื่อใช้ในการแสดงละคร  และคำที่ใช้ในวงการนาฏศิลป์ไทย  เพื่อสื่อความหมายในการแสดง  นาฏยศัพท์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่  นามศัพท์  กิริยาศัพท์  และนาฏศัพท์เบ็ดเตล็ด

          1. นามศัพท์
           นามศัพท์ หมายถึง ศัพท์ที่ใช้เรียกชื่อท่ารำ  หรือชื่อท่าที่บอกการกระทำของผู้นั้น  เช่น วง จีบ  คลายมือ  กระทุ้ง  จรด แตะ ซอยเท้า  ประเท้า ขยั่น  ตีไหล่  กล่อมไหล่  ยักตัว






             2. กิริยาศัพท์
              กิริยาศัพท์   หมายถึงศัพท์ที่ใช้เรียกในการปฏิบัติบอกอาการกิริยา  แบ่งเป็น
              1) ศัพท์เสริม   หมายถึง ศัพท์ที่ใช้เรียกเพื่อปรับปรุงท่าทางให้ถูกต้อง  สวยงาม เช่น   กันวง  ส่งมือ  หักข้อ  ตั้งไหล่   กันเข่า  หลบศอก  เปิดคาง
    
                2) ศัพท์เสื่อม  หมายถึง ศัพท์ที่ใช้เรียกชื่อท่ารำหรือท่วงท่าของผู้รำที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานเพื่อให้ผู้รำรู้ตัวและแก้ไขท่ารำของตนเองให้ดีขึ้น  เช่น วงล้า  วงคว่ำ  วงเหยียด วงหัก  เกร็งคอ  รำลน  รำเลื้อย

                3.นาฏยศัพท์เบ็ดเตล็ด 
               นาฏยศัพท์เบ็ดเตล็ด  หมายถึง ศัพท์ต่างๆที่ใช้เรียกในภาษานาฏศิลป์  นอกเหนือไปจากกิริยาศัพท์และนามศัพท์  เช่น จีบยาว  จีบสั้น  หลายท่า  นายโรง
               นาฏยศัพท์แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนี้

                1) ส่วนศีรษะ  ใบหน้า และไหล่
                ลักคอ  ลักษณะคล้ายกับการเอียงศีรษะต่างกันตรงที่ศีรษะกับไหล่จะตรงกันข้าม คือ ถ้าลักคอข้างขวา จะเอียงศีรษะไปขวา แต่กดไหล่ซ้าย  การลักคอจะทำในจังหวะเพลงเร็วพร้อมๆกับการยักตัวหรือใช้ตัวไปด้วย

                   กดไหล่   กดไหล่จะคล้ายกับการเอียงไหล่  แต่จะเพิ่มน้ำหนักของการเอียงไหล่  เมื่อกดไหล่ขวาจะเอียงไหล่ขวาก่อน  แล้วค่อยๆ กดไหล่ขวานั้นต่ำลงไปอีก  การกดไหล่จะปฏิบัติต่อจากการเอียงไหล่


                2) ส่วนแขนและมือ
                 จีบส่งหลัง  จะจีบมือหลังส่งส่วนแขนและมือที่จีบนั้นไปข้างหลัง  แขนตึง  พลิกข้อมือจีบให้หงายขึ้น  ลำตัว  ดันเอว ดันไหล่

          
                3) ส่วนลำตัว
                  โยกตัว   โยกตัวจะปฏิบัติคล้ายกับการโย้ตัว  ถ้าโยกตัวไปทางขวาก็เอียงขวา  ถ้าโยกตัวไปทางซ้ายก็เอียงซ้าย

                   กระดกเสี้ยว  กระดกเสี้ยวจะต่างจากการกระดกเท้าตรงที่  ถ้าจะกระดกเสี้ยวด้วยเท้าขวาให้ก้าวเท้าซ้ายไปข้งตัว  และพยายามเอีงศีรษะกดไหล่ขวาลงไปทางเท้าขวาที่กระดกขึ้นให้มากที่สุด  หนีบน่องให้ติดโคนขา  หักข้อเท้าที่กระดกลง  สิ่งสำคัญของการ กระดกเสี้ยง คือ การก้าวเท้าจะต้องก้าวออกไปด้านข้าง  ให้กว้างกว่าก้าวธรรมดา  จะทำให้การกระดกเสี้ยวง่ายขึ้น  การกระดกเสี้ยวส่วนใหญ่จะเป็นท่ารำของตัวนาง

                ฉายเท้า    เป็นกิริยาของการใช้เท้าโดยจะใช้เท้าใดก้ได้  ให้น้ำหนักตัวยู่ที่เท้ายืนเป็นหลัก เท้าที่ฉายจะไม่รับน้ำหนัก  โดยการใช้จมูกเท้าจรดพื้นข้างเท้าที่รับน้ำหนัก  แล้วค่อยๆเคลื่อนจมูกเท้าเหลื่อมไปข้างหน้าเล็กน้อย  และเคลื่อนไปข้างๆ คล้ายกับการใช้จมูกเท้าวาดเส้นรอบวงกลมด้านหนึ่ง  สุดท้ายของการฉายเท้าส่วนมากเท้าที่ฉายจะยกเท้าวาง




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์

การอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย

เครื่องหมาย และสัญลักษณ์ในดนตรีสากล