ขนาด ประเภท และวิธีการเก็บรักษาโหวด
ขนาดของโหวด
ขนาดของโหวดแต่เดิมนั้นนิยมทำกัน 3 ขขนาด ดังนี้
1. ขนาดเล็ก มีลูกโหวด 3 - 7 ลูก
2. โหวดกลาง มีลูกโหวด 9 ลูก
3. โหวดใหญ่ มีลูกโหวด 11 - 13 ลูก ความยาวของลูกดหวดในแต่ละลูกนั้นจะสั้นยาวต่างกัน ลูกยาวที่สุดประมาณ 25 เวนติเมตร ลูกต่อมาจะยาวลดหลั่นกันลงมาจจนถึงลูกที่สั้นที่สุด ประัมาณ 6 เซนติเมตร คนโบราณเรียกลูกโหวดที่ยาวที่สุดว่า ลูกโอ้ ลูกที่เหลือไม่ปรากฏชื่อ ในปัจจุบันจะเรียกชื่อลูกโหวดตามระดับเสียงโน้ตสากล คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
การเก็บรักษาโหวด
1. เก็บในที่ ที่มีอากาศเย็น อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพราะถ้าอุณหภูมิสูงหรือร้อนจะทำให้ขี้สูดละลาย
2. เก็บใส่กล่อง หรือถุงผ้า เพื่อป้องกันแมลงและการกระแทกเพราะโหวดมีความเปราะบางมาก
ขนาดของโหวดแต่เดิมนั้นนิยมทำกัน 3 ขขนาด ดังนี้
1. ขนาดเล็ก มีลูกโหวด 3 - 7 ลูก
2. โหวดกลาง มีลูกโหวด 9 ลูก
3. โหวดใหญ่ มีลูกโหวด 11 - 13 ลูก ความยาวของลูกดหวดในแต่ละลูกนั้นจะสั้นยาวต่างกัน ลูกยาวที่สุดประมาณ 25 เวนติเมตร ลูกต่อมาจะยาวลดหลั่นกันลงมาจจนถึงลูกที่สั้นที่สุด ประัมาณ 6 เซนติเมตร คนโบราณเรียกลูกโหวดที่ยาวที่สุดว่า ลูกโอ้ ลูกที่เหลือไม่ปรากฏชื่อ ในปัจจุบันจะเรียกชื่อลูกโหวดตามระดับเสียงโน้ตสากล คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
ประเภทของโหวด
ประเภทของโหวด โหวดมี 3 ประเภท ดังนี้
1. โหวดกลม นิยมเป่าเป็นเครื่องดนตรีประกอบวงดนตรีพื้นบ้านอีสานในปัจจุบัน
2. โหวดแกว่ง ลักษณะเหมือนโหวดกลม แต่ต่างกันตรงที่มีเชือกผูกติดหางโหวดเพื่อใช้แกว่งให้เกิดเสียง
3. โหวดแผง ใช้เป่าเหมือนโหวดกลม แต่ดัดปลงการติดลูกโหวดจากการติดรอบแกน มาเป็นการติดกันเป็นแผงเหมือนกับแคนแต่เป็นแถวเดียว
การเก็บรักษาโหวด
1. เก็บในที่ ที่มีอากาศเย็น อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพราะถ้าอุณหภูมิสูงหรือร้อนจะทำให้ขี้สูดละลาย
2. เก็บใส่กล่อง หรือถุงผ้า เพื่อป้องกันแมลงและการกระแทกเพราะโหวดมีความเปราะบางมาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น