การวิเคราะห์ทัศนธาตุและการออกแบบในงานทัศนศิลป์
ทัศนศิลป์ (Visual Art) หมายถึง ผลงานศิลปะที่เกิดจากการแสดงออกทางการสร้างสรรค์ของมนุษย์เพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถจำแนกผลงานตามรูปแบบได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ งานจิตรกรรม (Painting) งานประติมากรรม (Sculpture) งานสถาปัตยกรรม (Architecture) และงานพิมพ์ (Printing) โดยผู้สร้างสรรค์หรือศิลปินแต่ละท่านจะเป็นผู้นำเอาองคืประกอบต่างๆ ทางทัศนธาตุมาออกแบบตามหลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ให้เกิดเป็นผลงานทัศนศิลป์ขึ้นมาตามแนวคิด หรือจินตนาการของตน ซึ่งการเลือกใช้ทัศนธาตุอาจเกิดจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจ ดังนั้น ในผลงานทัศนศิลป์ทุกชิ้นจึงมีทัศนธาตุปรากฏอยู่ ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการวิเคราะห์ทัศนธาตุและหลักการออกแบบในงานทัศนศิลป์มาเป็นกรณีศึกษา 2 ผลงาน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 รูปทรงของแสงบนพื้นที่ของเงา
ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานจิตรกรรมของอาจารย์ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2552 มีชื่อว่า รูปทรงของแสงบนพื้นที่ของเงา วาดโดยใช้สีอะคริลิกและสีน้ำมันบนผืน้าใบ ขนาด 172 *142.5 เซนติเมตร วาดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2521 ซึ่งศิลปินมีผลงานหลายชิ้นที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผลของแสงที่ตกกระทบกับรูปทรงต่างๆ นำไปเป็นแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ขึ้นมา
ตัวอย่างที่ 1 รูปทรงของแสงบนพื้นที่ของเงา
รูปทรงของแสงบนพื้นที่ของเงา (พ.ศ.2521) ผลงานของปรีชา เถาทอง เทคนิคภาพวาดสีอะคริลิกและสีน้ำมันบนผืนผ้า |
การวิเคราะห์ องค์ประกอบของทัศนธาตุที่ศิลปินนำมาใช้ คือ เส้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยเส้นตรงแนวดิ่ง เส้นตรงแนวนอนและเส้นหยัก ด้านล่างของภาพเป็นเส้นโค้งแบบไทยประเพณีที่แสดงลวดลายต่างๆและใช้ผนังของพระอุโบสถมานำเสนอ ดดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องแสงที่มีต่อบรรยากาศทั้งหมดของภาพ จึงจำกัดขอบเขตของแสงดดยเน้นให้แสงส่องตกกระทบผนังพระอุโบสถเฉพาะเป็นทางบริเวณ ทำให้เกิดรูปทรงเรขาคณิตระหว่างรูปทรงของแสงและพื้นที่ของเงา โดยส่วนที่เป็นแสงจะเป็นรูปทรงที่มีสัดส่วนน้อยกว่าส่วนที่เป็นพื้นที่ของเงา ส่วนที่มืดดูลึกลงไปเป็นการแสดงระยะใกล้ - ไกล การใช้สีวรรณะเย็นที่มีลักษณะอ่อนใสตัดกับสีพื้นเข้ม ช่วยทำให้การมองเห็นรายละเอียดของภาพได้อย่างชัดเจน สร้างความรู้สึก ร่มเย็น และศรัทธา
ผลงานจิตรกรรมชิ้นนี้มีการจัดวางภาพที่มีชีวิตชีวา แม้ว่าส่วนที่เป็นรูปส่วนใหญ่จะวางอยู่ด้านซ้าย แต่มีการถ่วงน้ำหนักด้วยส่วนที่มืดอยู่ทางด้านขวา ทำให้ภาพมีความสมดุล ลวดลายบริเวณผังที่ต่อเนื่องเต็มทั้งภาพ กำหนดเป็นจังหวะได้อย่างงดงามลงตัว ช่วยลดพื้นที่ว่ง รูปทรงของแสงและลวดลายบนผนังพระอุโบสถในเงามืดมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องเป็นเนื้อหาเดียวกัน ไม่แตกกระจาย แสดงถึงความเป็นเอกภาพของรูปทรงที่กลมกลืนกันไปทั้งสีและแสงที่ตกกระทบเป็นรูปทรงเรขาคณิต รวมทั้งสัดส่วนของสิ่งต่างๆ ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงและจัดวางได้อย่างลงตัว ทำให้ผลงานมีความงดงามมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่ 2 ทัชมาฮาล
ทัชมาฮาล (Taj mahal) ตั้งอยู่เมืองอัคระ ประเทศอินเดีย เป็นผลงานทัสนศิลป์ประเภทสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 จากหินอ่อนสีขาวนวล โดยกษัตริย์ชาห์ญะฮาน สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระองค์ที่มีต่อพระนางมุมตัช มาฮาล พระมเหสีที่สินพระชนม์ รูปแบบของงานสถาปัตยกรรมเป็นรูปโดมแบบเปอร์เซีย ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นสิ่งก่อสร้างด้านความรักที่สวยงามที่สุดของโลก
การวิเคราะห์ ทัศนธาตุที่ปรากฏอยู่ในผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นนี้จะประกอบไปด้วยลักษณะของเส้นตรงแนวราบของสระน้ำที่เป็นจุดนำสายตามุ่งไปสู่ตัวอาคาร เสาทั้ง 2 ด้านเป็นเส้นตรงแนวตั้งที่ให้ความรู้มั่นคง แข็งแรง และสง่างาม กำแพงปรากฏทัศนธาตุที่เป็นเส้นตรงแนวนอน หรือเส้นระดับ ให้ความรู้สึกราบเรียบ ปลอดภัย ตัวอาคารจะประกอบไปด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและรูปโดมทรงกลม มีการนำลักษณะเส้นแบบต่างๆ ทั้งเส้นตรง แนวตั้ง เส้นตรงแนวนอน และเส้นโค้งมาใช้ในการออกแบบส่วนต่างๆ ส่งผลให้ตัวสถาปัตยกรรมมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่สวยงาม
พื้นผิวแม้ว่าจะเป็นหินอ่อนแต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความราบเรียบ การให้พื้นที่โดยรอบตัวสถาปัตยกรรมเป็นพื้นที่ว่างและเมื่อมีฉากหลังเป็นพื้นที่สีเข้มของท้องฟ้า ก็ยิ่งเสริมให้สีขาวของตัวอาคารมีความโดเด่นตระหง่านอยู่ในความเวิ้งว้างของบรรยากาศ สื่อถึงความยิ่งใหญ่ รวมทั้งเงาสะท้อนบนพื้นผิวน้ำก็ช่วยทำให้เกิดมิติที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ ทัศนธาตุที่ปรากฏอยู่ในผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นนี้จะประกอบไปด้วยลักษณะของเส้นตรงแนวราบของสระน้ำที่เป็นจุดนำสายตามุ่งไปสู่ตัวอาคาร เสาทั้ง 2 ด้านเป็นเส้นตรงแนวตั้งที่ให้ความรู้มั่นคง แข็งแรง และสง่างาม กำแพงปรากฏทัศนธาตุที่เป็นเส้นตรงแนวนอน หรือเส้นระดับ ให้ความรู้สึกราบเรียบ ปลอดภัย ตัวอาคารจะประกอบไปด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและรูปโดมทรงกลม มีการนำลักษณะเส้นแบบต่างๆ ทั้งเส้นตรง แนวตั้ง เส้นตรงแนวนอน และเส้นโค้งมาใช้ในการออกแบบส่วนต่างๆ ส่งผลให้ตัวสถาปัตยกรรมมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่สวยงาม
พื้นผิวแม้ว่าจะเป็นหินอ่อนแต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความราบเรียบ การให้พื้นที่โดยรอบตัวสถาปัตยกรรมเป็นพื้นที่ว่างและเมื่อมีฉากหลังเป็นพื้นที่สีเข้มของท้องฟ้า ก็ยิ่งเสริมให้สีขาวของตัวอาคารมีความโดเด่นตระหง่านอยู่ในความเวิ้งว้างของบรรยากาศ สื่อถึงความยิ่งใหญ่ รวมทั้งเงาสะท้อนบนพื้นผิวน้ำก็ช่วยทำให้เกิดมิติที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
ผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกนี้ จะเห็นได้อย่างชัดถึงการนำองค์ประกอบศิลป์มาใช้ในการออกแบบได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อผู้ชมมองไปที่ด้านหน้า จะเห็นอาคารสีขาวสะดุดตาขนาดใหญ่ เห็นได้ตั้งแต่ในระยะไกล ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นรูปโดมแบบเปอร์เซียที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนะรรมอาหรับ ส่วนประกอบต่างๆของตัวอาคารถูกออกแบบและนำมาจัดวางอย่าลงตัวได้สัดส่วน มีจังหวะ ตลอดจนเสริมความโดดเด่นให้แก่กันและกัน ไม่มีส่วนใดที่ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน หรือขัดแย้งแปลกแยกไปจากกลุ่ม แม้แต่สระน้ำ ก็ช่วยเพิ่มความงามให้แก่ทัชมาฮาล ทั้งในด้านสะท้อนภาพ เป็รพื้นที่โล่งไม่บดบัง หรือดึึงความสนใจออกไปจากตัวสถาปัตยกรรม
ในการออกแบบ สถาปนิกตั้งใจให้สถาปัตยกรรมมีลักษณะ 2 ด้านที่เหมือนกัน หรือมีความสมดุลเท่ากัน ขณะเดียวกันจากมุมสายตา สมมติว่ามีการลากเส้นตรงไปยังจุดกึ่งกลางอาคาร พื้นที่ระหว่างทางเดินทั้ง 2 ด้านของสระน้ำ รวมทั้งแนวพุ่มไม้ 2 ข้างทางและหอคอยขนาบข้าง ก็จัดวางตำแหน่งเป็นคู่ขนานในระดับเสมอกันเป็นจังหวะที่ลงตัว ที่จะช่วยนำสายตามุ่งสู่โดมใหญ่ ทั้งนี้ การที่ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อน ใช้เส้นโค้งพร้อมลวดลายในช่องกรอบและส่วนอื่นๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ผลงานกุแล้วไม่แข็ง แต่กลับทำให้รู้สึกอ่อนช้อย นุ่มนวล
สถาปัตยกรรมแห่งนี้เมื่อดูโดยรวมแล้ว จะเห้นว่าทุกส่วนประกอบสะท้อนถึงความเป็นเอกภาพและความกลมกลืนเป็นอันหึ่งอันเดียวกัน ทำให้ผลงานมีความสวยงามยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น