1.1 การศึกษาโครงสร้างโลก
นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามหาวิธีการต่างๆ ในการศึกษาโครงสร้างโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยพยายามใช้หลักฐานต่างๆ ที่จะสมารถค้นพบได้ รวมทั้งใช้ทฤษฎี หลักการทางวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อที่จะตอบข้อสงสัยดังกล่าว
เมื่อ 300 ปีที่ผ่านมา เซอร์ไอแซก นิวตัน ได้ค้นพบวิธีการคำนวนความหนาแน่นเฉลี่ยของโลกซึ่งมีค่าประมาณเป็น 2 เท่าของความหนาแน่นของหินบนผิวโลก แสดงว่าภายในโลกต้องประกอบด้วยสารที่มีความหนาแน่นมากกว่าผิวโลก
ถัดจากนั้นอีก 100 ปี นักวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาวิชาพยายามวิจัย และสำรวจเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างโลกจากสิ่งต่างๆ ที่ระเบิดออกมาจากภูเขาไฟ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าบางบริเวณภายในโลกมีความร้อน และมีความดันที่เหมาะสมต่อการหลอมเหลวหินได้
ช่วงเวลาต่อจากนั้นจนถึงปัจจุบัน มีการวัดอุณหภูมิในบริเวณเหมืองลึกและภายในหลุมเจาะ ซึ่งพบว่าอุณหภูมิภายในโลกสูงขึ้นตามระดับความลึกจากพื้นผิวโลก
เนื่องจากยังไม่มีเทคโนโลยีใดในปัจจุบันที่จะลงไปเก็บตัวอย่างและวัดค่าสภาพแวดล้อมใต้โลกในระดับความลึกมากๆได้ อย่างไรก็ตามมนุษย์ยังมีความพยายามที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างของโลกโดยตรงหลายๆวิธี เช่น ศึกษาจากการเจาะสำรวจ การศึกาาชุดหินโอฟิโอไลต์ (ophiolite sequence) (เป็นกลุ่มหินในอดีตของเปลือกโลกใต้มหาสมุทร แต่ปัจจุบันพบบนแผ่นดิน) การศึกษาหินภูเขาไฟ การศึกษาส่วนประกอบทางเคมีของอุกกาบาตที่ตกบนโลกและตัวอย่างหินจากดวงจันทร์ เป็นต้น
นอกจานี้ยังใช้วิธีการศึกษาโครงสร้างโลกทางอ้อมร่วมด้วย ซึ่งเป็นการศึกษาสมบัติภายในโลกโดยอาศัยหลักการทางวิทยศาสตร์ เช่น ศึกษาจากคลื่นแผ่นดินไหว คลื่นที่มนุษย์สร้างขึ้น (การทดลองระเบิดนิวเคลียร์) และการวัดค่าแรงโน้มถ่วงบริเวณผิวโลก เป็นต้น
ในการศึกษาโครงสร้างโลกจากคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนผ่านโลก คลื่นที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ คลื่นปฐมภูมิ (Primary waves , P waves) และคลื่นทุติยภูมิ (Secondary waves , S waves ) ซึ่งเป็นคลื่นในตัวกลาง (Body wave) ดังที่จะกล่าวละเอียดในเนื้อหาต่อไป หัวข้อแผ่นดินไหว โดยที่คลื่นไหวสะเทือนดังกล่าวมีสมบัติ ดังนี้
1. คลื่นปฐมภูมิ สามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางได้ทุกสถานะ และมีความเร็วมากกว่าคลื่นทุติยภูมิ
2. คลื่นทุติยภูมิ สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้เฉพาะตัวกลางที่เป็นของแข็งเท่านั้น
เมื่อคลื่นไหวสะเทือนเคลื่อนผ่านส่วนต่างๆ ของโลกจะเกิดการหักเห และ/หรือสะท้อนตรงบริเวณรอยต่อของชั้นโครงสร้างโลก ที่ประกอบด้วยหิน และ /หรือสารที่มีสมบัติแตกต่างกัน จึงทำให้สามารถวิเคราะห์หาโครงสร้างของโลกได้
![]() |
ความเร็วของคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่จากผผิวโลกไปยังแกนโลก |
![]() |
โครงสร้างภายในโลกแบ่งตามความเร็วของคลื่นไหวสะเทือน |
อ้างอิง : หนังสือเรียนรายวิชา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สสวท.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น