ประเภทของเพลงไทย
เพลงไทยเป็นเพลงที่มีแนวทำนอง เนื้อร้อง จังหวะ และเสียงประสานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย เพลงไทยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1) เพลงบรรเลง หมายถึง เพลงที่ใช้เครื่องดนตรีบรรเลงล้วนๆ มีแต่ทำนอง ไม่มีการขับร้องประกอบ เช่น เพลงโหมโรง เพลงหน้าพาทย์
2) เพลงขับร้อง หมายถึง เพลงที่นิยมนำมาขับร้องประกอบการบรรเลงดนตรีตามแบบของเพลงไทย คือ ร้องแล้วมีดนตรีรับ หรือร้องคลอไปกับดนตรี เช่น เพลงเถา เพลงตับ เพลงใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีการจำแนกเพลงไทยออกตามกิจกรรมหรือสถานการณ์ต่างๆ โดยศิลปินดนตรีจะบรรเลงให้เหมาะสมและถูกต้องตามหลักขนบปฏิบัติสำหรัลเพลงนั้น ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
เพลงในพระราชพิธี
ในงานพระราชพิธีต่างๆนักดนตรีของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ศิลปินข้าราชการของกรมศิลปากร ผู้ปฏิบัติราชการ เพลงที่ใช้บรรเลงจึงต้องดำเนินไปตามระเบียบการใช้เพลง เช่น งานทอดผ้ากฐิน จะมีวงปี่พาทย์บรรเลง เพลงที่ใช้ คือ เพลงสาธุการ เพลงกราวใน และเพลงเรื่อง หากป็นงานจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพลงที่ใช้ เช่น เพลงพญาดิน เป็นต้น
เพลงในงานมงคล
งานมงคลเป็นงานที่มีเพลงบรรเลงได้ทั่วไป ยกเว้นเพลงที่กำหนดใช้สำหรับงานอวมงคล นักดนตรีจะทราบและไม่นำมาใช้ในงานมงคลอย่างไรก็ตามแบบแผนการใช้ เพลงก็ต้องพิจารณาว่าควรใช้วงดนตรีประเภทใดและเลือกใช้เพลงใดที่เหมาะสม เช่น งานที่เกี่ยวกับการทำบุญเลี้ยงพระ มีการสวดมนต์เย็น-ฉันเช้า กลุ่มเพลงที่ใช้จะประกอบไปด้วยเพลงชุดโหมโรงเย็น เพลงชุดโหมโรงเช้า เพลงพระฉัน งานทำขวัญบวชนาค
ตัวอย่างเพลงโหมโรงเช้า
เพลงในงานอวมงคล
งานอวมงคลเป็นงานพิธีที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมหลังความตาย นิยมใช้ในงานของชาำทยพุทธ เช่น งานสวดพระอภิธรรมศพ งานฌาปนกิจศพ งานทำบุญกระดูก วงดนตรีที่มช้มนงานอวมงคล เช่น วงบัวลอย วงปี่พาทย์นางหงส์ วงปี่พาทย์มอญ วงเครื่องสายปี่ชวา เป็นต้น
ตัวอย่าง วงปี่พาทย์มอญ มอญยกศพ
เพลงประกอบการแสดง
การแสดงหนังใหญ่ โขน ละคร หุ่นกระบอก ลิเก และการแสดงเป็นเรื่องต่างๆนักแสดงสวมบทบาทไปตามบทของแต่ละท้องเรื่อง วงปี่พาทย์ที่บรรเลงประกอบการแสดงต้องดำเนินเพลงให้สอดคล้องกับบทที่กำหนดเพลงไว้ หรืออาจบรรเลงรับ-ส่งตัวแสดงตามบทบาท ซึ่งนักดนตรีต้องทราบและเข้าใจระเบียบในการใช้เพลงให้เข้ากับการแสดงนั้นๆ
ตัวอย่างการแสดงหนังใหญ่
เพลงประกอบการแสดงมีอยู่จำนวนมาก สามารถจำแนกตามประเภทเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1) เพลงหน้าพาทย์ เพลงประเภทนี้เป็นที่ใช้ประกอบกิริยาสมมติของตัวละคร ซึ่งดำเนินตามบทบาทในเนื้อเรื่อง ได้แก่
อากัปกิริยาในการแสดง
|
เพลงที่ใช้
|
เดิน ทั้งเดนเร็ว เดินช้า
วิ่งไล่
|
เพลงเชิด เชิดฉาน เสมอ
เสมอตีนนก เสมอเถร เสมดมาร เสมอแขก เสมอมอญ
|
เหาะเหิน บิน ท่องอากาศ เคลื่อนตัวในอากาศ
|
เพลงเหาะ แผละ โคมเวียน
|
ที่เกี่ยวกับน้ำ
|
เพลงลงสรง ใช้เรือ โล้
|
กิน ดื่ม
|
เพลงนั่งกิน เซ่นเหล้า
|
นอน
|
เพลงตระบรรทมไพร ตระนอน
|
จัดทัพ สู้รบ
|
เพลงกราวนอก กราวใน ปฐม
เชิด
|
โศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้
|
เพลงทยอย โอด
|
แสดงอิทธิฤทธิ์
แปลงหรือเนรมิตรร่างใหม่
|
เพลงรัวลาเดียว
รัวสามลา คุกพาทย์ ตระนิมิต
|
2) เพลงตามบทบาทและสถานการณ์ เพลงประกอบการแสดง นอกจากจะมีเพลงประกอบอากัปกิริยาแล้ว ในช่วงดำเนินเนื้อเรื่องซึ่งบรรยายถึงสถานที่ เหตุการณ์ รูปร่าง ลักษณะ อารมณ์ ความรู้สึกของตัวละคร รวมถึงความเป็นมาเป็นไปของเนื้อเรื่อง เพลงที่ใช้ต้องบรรเลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์นั้น มีตัวอย่างของเพลงที่กำหนดใช้บรรเลงหรือบรรเลงประกอบการขับรัอง ของตัวละคร ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้เพลงอัตรา 2 ชั้น หรือเพลงอัตราชั้นเดียว ได้แก่
อารมณ์ในการแสดง
|
เพลงที่ใช้
|
รัก
|
เพลงบังใบ สาลิกาแก้ว
ทองย่อน ลีลากระทุ่ม
|
โศกเศร้า
|
เพลงลาวครวญ ดาวทอง ธรณีกันแสง
|
ดีใจ เย้ยหยัน
|
เพลงกราวรำ เย้ย
|
โกรธ ขัดเคือง
|
เพลงลิงโลด ลิงลาน
นาคราช
|
ขลัง บรรยายความศักดิ์สิทธิ์
|
เพลงลาวเสี่ยงเทียน
ขับไม้บัณเฑาะว์ แขกบรเทศ
|
ชมธรรมชาติ
|
เพลงคลื่นกระทบฝั่ง ลมพัดชายเขา ลาวชมดง
|
สนุกสนาน
|
เพลงกราวตะลุง
ค้างคาวกินกล้วย คุดทะราดเหยียบกรวด
|
ตัวอย่างเพลง ลาวเสี่ยงเทียน
ศัพท์สังคีตในดนตรีไทย
วิชาการดนตรีไทยมีศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกสื่อสารกัน ศัพท์ดังกล่าวงเรียกว่า " ศัพท์สังคีต " ศัพท์ที่น่ารู้ มีดังนี้
กวาด หมายถึง วิธีการบรรเลงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีที่บรรเลงทำนอง มีระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้เหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก โดยใช้ไม้กวาดลูกไปที่ลูกระนาด กรือลูกฆ้อง จากลูกที่มีระดับเสียงต่ำไประดับเสียงสูง
คลอ หมายถึง การบรรเลงไปพร้อมๆกัน กับการขับร้อง โดยผุ้บรรเลต้องบรรเลงเครื่องดนตรีให้ทำนองและเสียงตรงกับผู้ขับร้อง
จน หมายถึง จนมุม หมดหนทาง หมดทางสู้ ทำไม่ได้ตามที่ต้องการ คำว่า " จน " ในทางดนตรีเกิดขึ้นเมื่อศิลปินใช้ปฏิภาณต่อสู้กันด้วยวิชาดนตรี ฝ่ายที่ทำไม่ได้ หรือกล้อมแกล้มบรรเลงขับร้องไม่แนบเนียน ถือว่า " จน "
เดี่ยว หมายถึง วิธีการบรรเลงอย่างหนึ่งของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องทำทำนอง เช่น ซอสามสาย ซอด้วง ซออู้ จระเข้ ปี่ในเป็นต้น
เพลงตับ หมายถึง เพลงที่มาเรียบเรียงเข้าเป็นชุด นำมาบรรเลง หรือบรรเลงร้องต่อเนื่องกัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. ตับเรื่อง คือ เพลงที่เรีบยเรียงเข้าเป็นชุด โดยคำนึงถึงการดำเนินเรื่องราวเป็นหลัก
2. ตับเพลง คือ เพลงที่เรีบยเรียงเข้าเป็นชุด โดยคำนึงถึงความกลมกลืน
ลูกล้อ-ลูกขัด หมายถึง วิธีการบรรเลงทำนองอย่างหนึ่งด้วยการแบ่งช่วงบรรเลงของเครื่องดนตรี 2 พวกด้วยวรรค หรือประโยคของทำนองที่มีความสั้น-ยาวตามทำนองของเพลงนั้นๆ
วีดิโอการสอน ศัพท์สังคีต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น